ตัวอย่างบทละคร เรื่อง เห็นแก่ลูก

ตัวอย่างบทละครเรื่อง  เห็นแก่ลูก

(ประกอบการเรียนรายวิชา ศิลปะ 2 ศ31102)

 

อ้ายคำ                    ใต้เท้าขอรับ คุณลออขึ้นกระไดมานี่แล้ว  (ออกไปทางเดิม)

                            (พระยาภักดีรีบเอาแส้ม้าไปแขวนไว้ตามที่เดิม)

นายล้ำ                    (หัวเราะ)  ฮะๆ! เคราะห์ดีจริง  ตกรกซิ

                            (แม่ลออเข้ามาทางขวา  แม่ลอออายุประมาณ 17 ปี  แต่งกายอย่างไปเที่ยวนอกบ้านพึ่งกลับมา)

แม่ลออ                  แหม! คุณพ่อ อะไรวันนี้กลับบ้านวันจริง ฉันหมายจะกลับให้ทันคุณพ่อกลับทีเดียว

พระยาภักดี             (ยิ้ม) พ่อได้เลิกงานเร็วหน่อยก็รีบกลับมา

แม่ลออ                  (มองดูนายล้ำ แล้วหันไปพูดกับพระยาภักดี)  นั่นใครคะ?

พระยาภักดี              คนเขามาหาพ่อ

นายล้ำ                   ฉันเป็นเกลอเก่าของเจ้าคุณ  ท่านนับถือฉันเหมือนน้องยังไงขอรับ

                           (พระยาภักดีพยักหน้า)

แม่ลออ                  อ้อ! (ลงนั่งไหว้)  ถ้ายังงั้นดิฉันก็ต้องนับถือคุณเหมือนอาดิฉันเหมือนกัน 

                           ทำไมดิฉันยังไม่รู้จักคุณอาเลย

นายล้ำ                   ฉันอยู่หัวเมือง พึ่งเข้ามา แต่ฉันเคยเห็นหล่อนแล้ว

แม่ลออ                  เมื่อไหร่คะ? ทำไมดิฉันจำไม่ได้ ดิฉันเป็นคนที่จำคนแน่นัก

นายล้ำ                   (ยิ้ม) เห็นหล่อนจะจำฉันไม่ได้เลย  เมื่อฉันได้เห็นหล่อนครั้งก่อนนี่น่ะ

                           อายุหล่อนได้ 2 ปีเท่านั้น

แม่ลออ                  แหม! ถ้ายังงั้น คุณคงรู้จักคุณแม่ดิฉันละซิคะ

นายล้ำ                  (แลดูตาพระยาภักดีแล้วจึงพูด เสียงออกเครือๆ) ฉันรู้จักคุณแม่หล่อนดี

แม่ลออ                 ถ้ายังงั้นดิฉันก็ยิ่งดีใจมากขึ้นที่ได้พบคุณ  ก็คุณพ่อดิฉันที่ตายล่ะคะ รู้จักไหม?

                         (นายล้ำพยักหน้า) ถ้ายังงั้นคุณก็ดีกว่าดิฉัน ดิฉันไม่รู้จักเลย  เคยเห็นแต่รูปที่ในห้องคุณแม่

                         รูปร่างสูงๆ หน้าอกกว้าง ดิฉันช่างชอบหน้าเสียจริงๆ หน้าตาเป็นคนซื่อ ใจคอกว้างขวาง

                         ถ้าใครบอกดิฉันว่าเป็นคนไม่ดี ดิฉันไม่ยอมเชื่อเป็นอันขาดเทียว แต่ท่านก็เป็นคนดีจริงๆ

                         อย่างที่ดิฉันนึกเดาเอาในใจ คุณพ่อนี่ก็ได้บอกดิฉันว่างั้น จริงไหมคะคุณพ่อ?

                        (พระยาภักดีพยักหน้า)

นายล้ำ                 ถ้าใครบอกหล่อนว่า พ่อหล่อนที่ตายน่ะเป็นคนไม่ดีละก็ หล่อนเป็นไม่ยอมเชื่อเลยเทียวหรือ?

แม่ลออ                 ดิฉันจะเชื่อยังไง ดูในรูปก็เห็นว่าเป็นคนดี  เออ! นี่คุณพ่อบอกแล้วหรือยัง เรื่องดิฉันจะแต่งงาน

นายล้ำ                  บอกแล้ว  ฉันยินดีด้วย

แม่ลออ                  คุณอาต้องมารดน้ำดิฉันนะคะ

นายล้ำ                  ฉัน – เอ้อ – ฉันต้องรีบกลับไปหัวเมือง

แม่ลออ                 โธ่  จะอยู่รดน้ำดิฉันหน่อยไม่ได้เทียวหรือคะ?

นายล้ำ                  ฉันจะขอตริตรองดูก่อน  แต่ยังไงๆก็ดี ถึงฉันจะอยู่รดน้ำหล่อนไม่ได้

                          ฉันก็คงตั้งใจอวยพรให้หล่อนมีความสุข

แม่ลออ                (ไหว้) ดิฉันรับพรล่วงหน้าไว้ก่อน คุณพ่อคะ ช่วยพูดจาชวนคุณอาให้อยู่รดน้ำดิฉันหน่อยนะคะ

                          ดิฉันจะเข้าไปในเรือนเสียทีละ  คุณพ่อกับคุณอาคงอยากคุยกันอย่างผู้ชายๆสนุกกว่า

                         (ออกไปทางประตูซ้าย)

นายล้ำ                 (นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดออกเสียงเครือๆ) เจ้าคุณขอรับ ใต้เท้าพูดถูก เด็กคนนี้ดีเกินกว่าที่จะเป็นลูกผม
                         ผมมันเลวทรามเกินที่จะเป็นพ่อเขา ผมพึ่งรู้สึกความจริงเดี๋ยวนี้เอง

พระยาภักดี           (ตบบ่านายล้ำ)  พ่อล้ำ!

นายล้ำ                 หล่อนได้เขียนรูปพ่อของหล่อนขึ้นไว้ในใจเป็นคนดีไม่มีที่ติ  ผมไม่ต้องการจะลบรูปนั้นเสียเลย
                         (ถอดแหวนวงหนึ่งออกจากนิ้ว)  นี่แน่ะครับ แหวนนี้เป็นของแม่นวล ผมได้ติดไปด้วยสิ่งเดียวเท่านี้แหละ
                         เจ้าคุณได้โปรดเมตตาผมสักที พอถึงวันแต่งงานแม่ลออเจ้าคุณได้โปรดให้แหวนนี้แก่เขา 
                         บอกว่าเป็นของรับไหว้ของผมส่งมาแทนตัว

พระยาภักดี           (รับแหวน)  ได้ซิเพื่อนเอ๋ย  ฉันจะจัดการตามแกสั่ง อย่าวิตกเลย

นายล้ำ                 แล้วผมขออะไรอีกอย่าง

พระยาภักดี            อะไร? ว่ามาเถอะ ฉันไม่ขัดเลย

นายล้ำ                 อย่าได้บอกความจริงแก่แม่ลออเลย  ให้เขาคงนับถือรูปผมอันเก่านั้น  ว่าเป็นพ่อเขา
                         และให้นับถือตัวผมเป็นเหมือนอา

พระยาภักดี            เอาเถอะ  ฉันจะทำตามแกประสงค์

นายล้ำ                 ผมลาที  พรุ่งนี้ผมจะกลับไปพิษณุโลก

พระยาภักดี            เอาเงินไปใช้มั่งซิ (ไปไขกุญแจเปิดลิ้นชักโต๊ะ หยิบธนบัตรออกมาปั้นหนึ่ง)

                         เอ้า นี่แน่ะ มีสักสามสี่ร้อยบาทได้อยู่ เอาไปใช้ก่อนเถอะ ต้องการอีกถึงค่อยบอกมาให้ฉันทราบ

นายล้ำ                (เสียงเครือ)  เจ้าคุณ  ผม...ผม...(เช็ดน้ำตา)

พระยาภักดี           อ๊าย! ไม่รับไม่ได้ ไม่รับโกรธกันเทียว (ยัดเยียดธนบัตรให้นายล้ำ)

นายล้ำ                (รับธนบัตร)  ผมจะไม่ลืมพระเดช พระคุณใต้เท้าจนตายทีเดียว ขอให้เชื่อผมเถอะ

พระยาภักดี           อย่าพูดให้มากนักเลย เงินใส่กระเป๋าเสียเถอะ แล้วก็คิดอ่านหาทางทำมาหากินต่อไปนะ

นายล้ำ                ขอรับ  ผมจะตั้งใจทำมาหากินในทางอันชอบธรรมจริงๆทีเดียว  ถ้าผมน่ะคิดโยกโย้

                       ไปอย่างหนึ่งอย่างใดอีก  ขออย่าให้ผมแคล้วอาญาจักรเลย

พระยาภักดี          เออๆ ตั้งใจไว้ให้ดีเถอะ นึกถึงแม่ลออบ้างน่ะ

นายล้ำ               ผมจะลืมหล่อนไม่ได้เลย  จะเห็นหน้าหล่อนติดตาไปจนวันตายทีเดียว  ผมลาที

                       ผมไม่จำเป็นต้องฝากแม่ลออแก่เจ้าคุณ เพราะเจ้าคุณได้เป็นพ่อหล่อนดียิ่งไปกว่าผม

                       ร้อยเท่าพันทวี (เช็ดน้ำตา)

พระยาภักดี           เอาเถอะ  อย่าวิตกเลย แม่ลออน่ะฉันคงจะรักถนอมเหมือนอย่างเดิม

นายล้ำ                ผมเชื่อ เชื่อแน่นอน

                       (ยกมือขึ้นไหว้)  ผมลาเจ้าคุณที

                       (พระยาภักดีเข้าไปจับมือนายล้ำ  ต่างคนต่างแลดูตากันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพระยาภักดีนึกอะไรขึ้นมา   
                       ออกเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ หยิบรูปแม่ลออทั้งกรอบด้วยส่งให้นายล้ำ 

                        นายล้ำรับไปดูอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เดินออกไปทางประตูขวา  พระยาภักดียืนมองไปทางประตู

                       ครู่หนึ่งแล้วก็เดินออกไปที่หน้าต่างทางด้านหลัง  ยืนพิงกรอบหน้าต่าง ตามองออกไปนอกหน้าต่างนิ่งอยู่จนปิดม่าน)

 

 

ที่มา : ศึกษาธิการ,กระทรวง .หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.
        กรุงเทพมหานคร : สกสค.ลาดพร้าว ,2557