เงื่อนเชือก
ความสำคัญของเงื่อนเชือก
ในอดีตมนุษย์รู้จักการนำเงื่อนมาใช้ในการดำรงชีวิต โดยใช้เส้นใยที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเถาวัลย์ เยื่อเปลือกไม้ มาทำเป็นเชือกเพื่อผูกรัดหิน หรือวัสดุแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แล้วนำไปใช้เป็นอาวุธในการล่าสัตว์ ดังที่เราเห็นในสารคดีต่างๆ
ต่อมาเมื่อมนุษย์ในยุคต่างๆเจริญมากขึ้น จึงเริ่มใช้เชือกที่ทำจากวัสดุดังกล่าวมาผูกรัดเป็นเงื่อนปม ใช้ในการมัดวัสดุต่างๆ เช่น มัดท่อนซุง ลำไม้ไผ่ เพื่อใช้ในการต่อเป็นพาหนะในการดำเนินชีวิต และล่าสัตว์หาอาหารทั้งทางบกและทางน้ำ โดยจะเห็นจากการที่มนุษย์เริ่มมีแพในการเดินทางทางน้ำ การปลูกสร้างบ้านในสมัยโบราณ แลอื่นๆอีกมาก
กิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต้องการให้ผู้ร่วมกิจกรรมรู้จักใช้วัสดุที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาใช้ในการดำรงชีวิตเลียนแบบธรรมชาติเพื่อการดำรงความเป็นอยู่อย่างอิสระโดยไม่พึ่งตนเองมากที่สุด ประกอบกับการเรียนรู้เรื่องเงื่อนเชือกเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่ลูกเสือจำเป็นต้องเรียนรู้ เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมในการอยู่ค่ายพักแรม การสร้างฐานผจญภัย การตั้งค่ายพักแรม การใช้เงื่อนในการช่วยผู้เจ็บป่วย เป็นต้น
คุณสมบัติของเชือกและประโยชน์ของการเรียนรู้เรื่องเงื่อนเชือก
ต้นมะพร้าว เชือกที่นำมาใช้ในการจัดกิจกรรมลูกเสือนั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะที่เชือกที่สำคัญ ๆ ดังนี้ คือ
1.เชือกมนิลา เป็นเชือกที่มีถิ่นฐานมาจากประเทศฟิลิปปินส์ มีคุณสมบัติเหนียวและแข็งแรง เชือกมนิลานี้ทำมาจากต้นอะคาบา ซึ่งพบได้มากในประเทศฟิลิปปินส์ มีประโยชน์ในการใช้เป็นเชือกผูกเรือและใช้ร่วมกับรอกทำสลิง
2.เชือกป่าน ทำมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ต้นเฮมพ์ มีสีเหลืองอ่อน มีความเหนียวในตัวมีความทนทานน้อย ผุกร่อนได้ง่าย ดังนั้นการนำเชือกชนิดนี้มาใช้ จึงจำเป็นต้องนำไปชุบในน้ำมันดินเสียก่อนเพื่อให้เกิดความทนทานในการใช้งาน ดังนั้นบางครั้งจึงเรียกเชือกชนิดนี้ว่า “ เชือกน้ำมัน ” เชือกน้ำมันหรือเชือกป่านนี้ เป็นเชือกที่นำมาใช้ในงานลักษณะที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ทั้งนี้เพราะน้ำมันจะช่วยป้องกันการกัดผุกร่อนของน้ำได้เป็นอย่างดี
3.เชือกกาบมะพร้าว ทำมาจากกาบของเบา และสามารถลอยตัวในน้ำได้ดี เนื่องจากเชือกชนิดนี้ มีความฝืด และหยาบ ตลอดจนลอยตัวในน้ำได้ จึงนิยมนำมาใช้ในงานที่เกี่ยวกับการประมงเช่น การลากพ่วงเรือและการลากเรือ เป็นต้น
4.เชือกลวด เป็นเชือกที่ผลิตจากเส้นโลหะและอโลหะผสมกัน การใช้เชือกชนิดนี้ต้องระมัดระวังการเกิดสนิมเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะโลหะที่นำมาใช้ในการถักทอนั้นมักเกิดเป็นสนิมได้โดยง่าย
เชือกลวด แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท ซึ่งได้แก่
4.1 เชือกลวดชนิดอ่อน ชนิดนี้เป็นเชือกลวดที่ใช้เชือกชุบน้ำมันมาทำเป็นไส้ ก่อนทำเป็นเกลียวเชือก คุณสมบัติของเชือกชนิดนี้ สามารถนำมาขด หรือพับได้ง่าย และยังสามารถนำมาผูกได้อีกด้วย
4.2 เชือกลวดชนิดแข็ง ชนิดนี้เป็นเชือกลวดที่ใช้ลวดเส้นเล็กๆร้อยทำเป็นไส้ ชนิดนี้ใช้งานกับวัตถุประเภทหนักมากๆ ไม่สามารถนำมาขด หรือพับได้ จึงมักใช้ประจำที่ในการใช้งาน
การบำรุงดูแลรักษาเชือกลวดทั้ง 2 ชนิดนี้ ควรหมั่นใช้น้ำมันหรือจารบีชโลม ให้ทั่ว หลังเสร็จสิ้นการนำมาใช้งาน
5.เชือกไนล่อน เชือกชนิดนี้ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ ซึ่งเรียกตามภาษาในท้องตลาดว่า “ ไนล่อน ” ปัจจุบัน ลูกเสือนิยมใช้เชือกชนิดนี้มาก ทั้งนี้เพราะเชือกชนิดนี้มีคุณสมบัติ ที่เหนียว มีความทนทาน แต่มีจุดอ่อนที่ มีราคาแพง และยืดตัวมากกว่าเชือกชนิดอื่นๆ
เชือกชนิดต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเชือกที่นิยมใช้ในกิจกรรมของลูกเสือ ซึ่งแต่ละชนิด จะมีคุณสมบัติและประโยชน์แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน และคุณสมบัติของเชือกชนิดนั้นๆ
การนำเชือกมาผูกเป็นเงื่อนปมมีประโยชน์อย่างมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทและชนิดต่างๆของเงื่อนเชือก เช่น หากเป็นเงื่อนประมง จะมีประโยชน์ในกิจการที่เกี่ยวกับการประมง ซึ่งได้แก่ ใช้ในการต่อเชือกที่มีขนาดเดียวกันในการทำให้เชือกที่สั้นให้ยาวขึ้น หรือใช้ต่อสายเอ็นตกปลา หรือใช้สำหรับผูกเพื่อเป็นที่ถือหิ้วภาชนะต่างๆเช่น คอขวด เป็นต้น หรือเงื่อนผูกรั้ง เป็นเงื่อนที่ใช้ประโยชน์ในการจัดทำกิจกรรมได้หลายๆอย่าง เช่น สามารถใช้เงื่อนชนิดนี้ใน การยึดเสาเต๊นท์ เสาธง หรือ สมอบก..
การเลือกใช้เชือกเพื่อกิจกรรมลูกเสือ
ในการเลือกใช้เชือกเพื่อทำกิจกรรมต่างๆในกระบวนการลูกเสือ ไม่ว่าจะเป็นการนำเชือกไปใช้ประโยชน์ในการประมง การใช้เชือกในการลากซุง การใช้เชือกในการทำฐานผจญภัย และการใช้เพื่อประโยชน์อื่นๆ มีหลักการในการคำนวณการใช้เชือกเพื่อกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
ในอดีตมนุษย์รู้จักการนำเงื่อนมาใช้ในการดำรงชีวิต โดยใช้เส้นใยที่เกิดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเถาวัลย์ เยื่อเปลือกไม้ มาทำเป็นเชือกเพื่อผูกรัดหิน หรือวัสดุแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แล้วนำไปใช้เป็นอาวุธในการล่าสัตว์ ดังที่เราเห็นในสารคดีต่างๆ
ต่อมาเมื่อมนุษย์ในยุคต่างๆเจริญมากขึ้น จึงเริ่มใช้เชือกที่ทำจากวัสดุดังกล่าวมาผูกรัดเป็นเงื่อนปม ใช้ในการมัดวัสดุต่างๆ เช่น มัดท่อนซุง ลำไม้ไผ่ เพื่อใช้ในการต่อเป็นพาหนะในการดำเนินชีวิต และล่าสัตว์หาอาหารทั้งทางบกและทางน้ำ โดยจะเห็นจากการที่มนุษย์เริ่มมีแพในการเดินทางทางน้ำ การปลูกสร้างบ้านในสมัยโบราณ แลอื่นๆอีกมาก
กิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต้องการให้ผู้ร่วมกิจกรรมรู้จักใช้วัสดุที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาใช้ในการดำรงชีวิตเลียนแบบธรรมชาติเพื่อการดำรงความเป็นอยู่อย่างอิสระโดยไม่พึ่งตนเองมากที่สุด ประกอบกับการเรียนรู้เรื่องเงื่อนเชือกเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่งที่ลูกเสือจำเป็นต้องเรียนรู้ เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมในการอยู่ค่ายพักแรม การสร้างฐานผจญภัย การตั้งค่ายพักแรม การใช้เงื่อนในการช่วยผู้เจ็บป่วย เป็นต้น
คุณสมบัติของเชือกและประโยชน์ของการเรียนรู้เรื่องเงื่อนเชือก
ต้นมะพร้าว เชือกที่นำมาใช้ในการจัดกิจกรรมลูกเสือนั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ในที่นี้จะขอกล่าวเฉพาะที่เชือกที่สำคัญ ๆ ดังนี้ คือ
1.เชือกมนิลา เป็นเชือกที่มีถิ่นฐานมาจากประเทศฟิลิปปินส์ มีคุณสมบัติเหนียวและแข็งแรง เชือกมนิลานี้ทำมาจากต้นอะคาบา ซึ่งพบได้มากในประเทศฟิลิปปินส์ มีประโยชน์ในการใช้เป็นเชือกผูกเรือและใช้ร่วมกับรอกทำสลิง
2.เชือกป่าน ทำมาจากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ต้นเฮมพ์ มีสีเหลืองอ่อน มีความเหนียวในตัวมีความทนทานน้อย ผุกร่อนได้ง่าย ดังนั้นการนำเชือกชนิดนี้มาใช้ จึงจำเป็นต้องนำไปชุบในน้ำมันดินเสียก่อนเพื่อให้เกิดความทนทานในการใช้งาน ดังนั้นบางครั้งจึงเรียกเชือกชนิดนี้ว่า “ เชือกน้ำมัน ” เชือกน้ำมันหรือเชือกป่านนี้ เป็นเชือกที่นำมาใช้ในงานลักษณะที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ทั้งนี้เพราะน้ำมันจะช่วยป้องกันการกัดผุกร่อนของน้ำได้เป็นอย่างดี
3.เชือกกาบมะพร้าว ทำมาจากกาบของเบา และสามารถลอยตัวในน้ำได้ดี เนื่องจากเชือกชนิดนี้ มีความฝืด และหยาบ ตลอดจนลอยตัวในน้ำได้ จึงนิยมนำมาใช้ในงานที่เกี่ยวกับการประมงเช่น การลากพ่วงเรือและการลากเรือ เป็นต้น
4.เชือกลวด เป็นเชือกที่ผลิตจากเส้นโลหะและอโลหะผสมกัน การใช้เชือกชนิดนี้ต้องระมัดระวังการเกิดสนิมเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะโลหะที่นำมาใช้ในการถักทอนั้นมักเกิดเป็นสนิมได้โดยง่าย
เชือกลวด แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ได้ 2 ประเภท ซึ่งได้แก่
4.1 เชือกลวดชนิดอ่อน ชนิดนี้เป็นเชือกลวดที่ใช้เชือกชุบน้ำมันมาทำเป็นไส้ ก่อนทำเป็นเกลียวเชือก คุณสมบัติของเชือกชนิดนี้ สามารถนำมาขด หรือพับได้ง่าย และยังสามารถนำมาผูกได้อีกด้วย
4.2 เชือกลวดชนิดแข็ง ชนิดนี้เป็นเชือกลวดที่ใช้ลวดเส้นเล็กๆร้อยทำเป็นไส้ ชนิดนี้ใช้งานกับวัตถุประเภทหนักมากๆ ไม่สามารถนำมาขด หรือพับได้ จึงมักใช้ประจำที่ในการใช้งาน
การบำรุงดูแลรักษาเชือกลวดทั้ง 2 ชนิดนี้ ควรหมั่นใช้น้ำมันหรือจารบีชโลม ให้ทั่ว หลังเสร็จสิ้นการนำมาใช้งาน
5.เชือกไนล่อน เชือกชนิดนี้ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ ซึ่งเรียกตามภาษาในท้องตลาดว่า “ ไนล่อน ” ปัจจุบัน ลูกเสือนิยมใช้เชือกชนิดนี้มาก ทั้งนี้เพราะเชือกชนิดนี้มีคุณสมบัติ ที่เหนียว มีความทนทาน แต่มีจุดอ่อนที่ มีราคาแพง และยืดตัวมากกว่าเชือกชนิดอื่นๆ
เชือกชนิดต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเชือกที่นิยมใช้ในกิจกรรมของลูกเสือ ซึ่งแต่ละชนิด จะมีคุณสมบัติและประโยชน์แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน และคุณสมบัติของเชือกชนิดนั้นๆ
การนำเชือกมาผูกเป็นเงื่อนปมมีประโยชน์อย่างมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทและชนิดต่างๆของเงื่อนเชือก เช่น หากเป็นเงื่อนประมง จะมีประโยชน์ในกิจการที่เกี่ยวกับการประมง ซึ่งได้แก่ ใช้ในการต่อเชือกที่มีขนาดเดียวกันในการทำให้เชือกที่สั้นให้ยาวขึ้น หรือใช้ต่อสายเอ็นตกปลา หรือใช้สำหรับผูกเพื่อเป็นที่ถือหิ้วภาชนะต่างๆเช่น คอขวด เป็นต้น หรือเงื่อนผูกรั้ง เป็นเงื่อนที่ใช้ประโยชน์ในการจัดทำกิจกรรมได้หลายๆอย่าง เช่น สามารถใช้เงื่อนชนิดนี้ใน การยึดเสาเต๊นท์ เสาธง หรือ สมอบก..
การเลือกใช้เชือกเพื่อกิจกรรมลูกเสือ
ในการเลือกใช้เชือกเพื่อทำกิจกรรมต่างๆในกระบวนการลูกเสือ ไม่ว่าจะเป็นการนำเชือกไปใช้ประโยชน์ในการประมง การใช้เชือกในการลากซุง การใช้เชือกในการทำฐานผจญภัย และการใช้เพื่อประโยชน์อื่นๆ มีหลักการในการคำนวณการใช้เชือกเพื่อกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
**ความยาวของเส้นรอบวงตัวเชือก (ยกกำลังสอง) = แรงรับน.น.วัตถุ (คิดเป็นตัน) X 18 , 9 , 6 หรือ 3)**
หมายเหตุ : ตัวเลข 18, 9 , 6 หรือ 3 เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้เชือกในการรับน้ำหนัก กล่าวคือ
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่มีความปลอดภัยสูงสุด ใช้ ตัวเลข 18 ในการคูณในสูตร
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่มีความปลอดภัยสูง ใช้ ตัวเลข 9 ในการคูณในสูตร
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่รับน้ำหนักเต็มที่ ใช้ ตัวเลข 6 ในการคูณในสูตร
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่มีอันตราย ใช้ ตัวเลข 3 ในการคูณในสูตร
ตัวอย่างที่ 1 หากเราต้องการสร้างฐานผจญภัยให้มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งรับน้ำหนักลูกเสือได้ 200 กิโลกรัม (0.2 ตัน) เราจะใช้เชือกที่มีขนาดเส้นรอบวงเท่าใด (ความปลอดภัยสูงสุดใช้ ตัวเลข 18 ในการคูณในสูตร)
สูตรในการคำนวณ
ความยาวของเส้นรอบวงตัวเชือก (ยกกำลังสอง) = แรงรับน.น.วัตถุ (คิดเป็นตัน) X 18
= 0.2 ตันX 9
ความยาวของเส้นรอบวงตัวเชือก (ยกกำลังสอง)= 1.8 ตัน
**เงื่อนต่างๆที่ควรเรียนรู้**
ตามหลักสูตรของการรับเครื่องหมายลูกเสือโลก เงื่อนเชือกที่ลูกเสือจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อใช้ในการร่วมกิจกรรมลูกเสือนั้น มีอยู่ด้วยกัน 10 เงื่อนเชือก ได้แก่
1. เงื่อนพิรอด ( Square Knot or Reef Knot )
2. เงื่อนขัดสมาธิ ( Sheet Bend Knot )
3. เงื่อนผูกกระหวัดไม้ ( Two Half Hitch Knot )
4. เงื่อนบ่วงสายธนู ( Bowline Knot )
5. เงื่อนตะกรุดเบ็ด ( Clove Hitch Knot )
6. เงื่อนประมง ( Fisherman Knot )
7. เงื่อนผูกซุง ( Timber Hitch Knot )
8. เงื่อนผูกรั้ง ( Tarbuck Knot )
9. เงื่อนปมตาไก่ ( Stevedore’s Knot )
10. เงื่อนการผูกแน่น ( Lashing Knot )
10.1 เงื่อนผูกประกบ ( Sheer Lashing Knot )
10.2 เงื่อนผูกกากบาด (Square Lashing Knot )
10.3 เงื่อนผูกทะแยง (Diagonal Lashing Knot )
1. เงื่อนพิรอด ( Square Knot or Reef Knot )
ในการต่อเชือกสองเส้นที่มีขนาดเท่ากันเข้าด้วยกัน เราใช้เงื่อนพิรอด ซึ่งเงื่อนพิรอดนี้เป็นเงื่อนที่นิยมใช้กันมากในการใช้รัดสิ่งของ ผูกชายผ้าพันแผล ผูกปลายผ้าทำสายคล้องคอ นอกจากนี้ยังใช้สำหรับผูกผ้าปูที่นอนที่นำมาต่อกัน แล้วใช้ผูกตัวผู้ป่วย เพื่อหย่อนจากที่สูงเมื่อเกิดอัคคีภัย เงื่อนพิรอดนี้นอกจากจะใช้ผูกให้แน่นหนาแล้ว ยังสามารถแก้ปมเงื่อนออกได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
เงื่อนพิรอด
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817200003.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเชือก ๒ เส้น ที่มีขนดเท่ากัน เหนียวเท่ากัน
๒. ใช้ผูกชายผ้าพันแผล ผูกชายผ้าทำสลิงคล้องคอ
๓. ใช้ผูกมัดหีบห่อ และวัตถุต่าง ๆ
๔. ผูกเชือกรองเท้า ( ปลายกระตุก ๒ ข้าง ) และผูกโบว์
๕. ใช้ผูกกากบาทญี่ปุ่น
๖. ใช้ต่อผ้าเพื่อให้ได้ความยาวตามต้องการเพื่อช่วยคนที่อยู่ที่สูงในยามฉุกเฉิน
( ต้องเป็นผ้าเหนียว ๆ )
เงื่อนขัดสมาธิ
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817200041.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเชือกที่มีขนาดต่างกัน (เส้นเล็กเป็นเส้นพันขัด) หรือต่อเชือกที่มีขนาด
เดียวกันก็ได้
๒.ใช้ต่อเชือกแข็งกับเชือกอ่อน(เส้นอ่อนเป็นเส้นพันขัด)
๓.ใช้ต่อเชือกที่ค่อนข้างแข็งเช่นเถาวัลย์
๔.ใช้ต่อด้ายต่อเส้นไหมทอผ้า
๕. ใช้ผูกเชือกกับขอหรือบ่วง (ใช้เชือกเล็กเป็นเส้นผูกขัดกับบ่วงหรือขอ) เช่น
ผูกเชือกกับธงเพื่อเชิญธงขึ้น – ลง
เงื่อนตะกรุดเบ็ด
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817200337.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกเชือกกับเสาหรือหลักเพื่อล่ามสัตว์เลี้ยงหรือเรือแพ(เพื่อป้องกันไม่ให้
ปมเชือกคลายหลุดควรเอาปลายเชือกผูกขัดสอดกับตัวเชือก ๑ รอบ )
๒. ใช้ผูกบันไดเชือก บันไดลิง ผูกกระหวัดไม้
๓. ใช้ในการผูกแน่น เช่น ผูกประกบ ผูกกากบาท
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817201009.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกร่นเชือกตรงส่วนที่ชำรุดเล็กน้อย เพื่อให้เชือกมีกำลังเท่าเดิม
๒. เป็นการทบเชือกให้เกิดกำลังลากจูง
๓. การร่นเชือกที่ยาวมากๆ ให้สั้น ตามต้องการ
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกชั่วคราวกับห่วง หรือกับรั่ว กับกิ่งไม้
๒. แก้ง่าย แต่มีประโยชน์
๓. ผูกเชือกสำหรับโหน
เงื่อนบ่วงสายธนู
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817201421.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกสายเต็นท์ ยึดเสาธงกันล้ม ใช้รั้งต้นไม้
๒. เป็นเงื่อนเลื่อนให้ตึงหรือหย่อนตามต้องการได้
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเส้นด้ายเล็ก ๆ เช่น ด้ายเบ็ด ต่อเส้นเอ็น
๒. ใช้ต่อเชือก ๒ เส้นที่มีขนาดเดียวกัน
๓. ใช้ผูกคอขวดสำหรับถือหิ้ว
๔. ต่อเชือกขนาดใหญ่ที่ลากจูง
๕. ใช้ต่อสายไฟฟ้า
๖. ใช้ผูกเรือแพกับท่าเรือหรือกับหลักหรือห่วง
๗. เป็นเงื่อนที่ผูกง่ายแก้ง่าย
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817202243.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกวัตถุท่อนยาว ก้อนหิน ต้นซุง เสา เพื่อการลากโยง
๒. ใช้ผูกทแยง
๓. ใช้ผูกสัตว์ เรือแพไว้กับท่าหรือเสาหรือรั้ว ต้นไม้
๔. เป็นเชือกผูกง่ายแก้ง่าย
ประโยชน์
เป็นเงื่อนกู้ภัยใช้ช่วยคนที่ติดอยู่บนที่สูง ไม่สามารถลงทางบันไดได้ หรือ
ใช้ช่วยคนขึ้นจากที่ต่ำ ใช้ประโยชน์เช่นเดียวกับบ่วงสายธนู ๒ ชั้นยึดกันแน่น
โดยมีสิ่งของอยู่ตรงกลางภายในบ่วงเพื่อดึงลากสิ่งของไป ระหว่างจุด ๒ จุด
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817203544.jpg)
วิธีผูก เอาเชือกพันรอบเสาทั้ง ๒ ต้น ตรงระหว่างมุมตรงข้ามด้วยเงื่อนผูกซุง
แล้วดึงตัวเชือกไม้เสาทั้ง ๒ ต้น ตามมุมตรงข้ามคู่แรก ( มุมทแยง )
ประมาณ ๓ รอบ ( ทุกรอบดึงให้เชือกตึง )แล้วดึงเชือกพันเปลี่ยนมุมตรงข้าม
คู่ที่ ๒ อีก ๓รอบ แล้วดึงเชือกพันหักคอไก่(พันรอบเชือกระหว่างไม้เสาทั้งสอง)
สัก ๒ – ๓ รอบ พันเสร็จเอาปลายเชือกผูกตะกรูดเบ็ดทีไม้เสาต้นใดต้นหนึ่ง
เก็บซ่อนปลายเชือกให้เรียบร้อย
ประโยชน์
๑. ใช้ในงานก่อสร้าง
๒. ให้ผูกเสาหรือไม้ค้ำยัน ป้องกันล้ม
๓. ทำตอม่อสะพาน
![](https://lh4.googleusercontent.com/_DPiFUrz8YE8/TbjlHAbTfcI/AAAAAAAACMs/dfl2zuhPpt0/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99.jpg)
อุปกรณ์ทำตอม่อสะพาน ด้วยไม้พลองหรือเสาเข็ม
๑. เสายาวพอสมควร จำนวน ๖ต้น ( ใช้พลองฝึก )
๒. เชือกมนิลาสำหรับผูก ๙เส้นขนาดโตพอสมควร (ฝึกด้วยพลองเชือกยาว
๓ เมตร)
วิธีสร้าง ฝึกด้วยไม้พลอง
๑. วางไม้พลอง ๒ อันขนานกันห่างกันประมาณ ๒ ใน ๓ ของความยาว
เป็นเสาตั้ง ( leg )
๒. เอาไม้พลองอีก ๒ อันวางทับลงบนไม้พลองคู่แรก( leg )ให้ปลายยื่น
ออกไปด้านละ ๑/๖หรือ ๑/๘
๓. เอาเชือกวัดความยาวของพลอง ทบเชือกแบ่งเป็น ๘ และ ๑๖ ส่วน เลื่อน
หัวเสาทั้ง ๒ อันเข้าหากันอีกข้างละ ๑/๑๖ เพื่อทำให้หัวเสาสอดเข้าหากัน
๔. เงื่อนที่ใช้ผูกใช้เงื่อนผูกกากบาทและผูกทแยง ( ตรงกลาง )
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเสาหรือไม้ให้ยาว
๒. ทำตอม่อสะพาน เสาธงลอย
๓. ทำนั่งร้าน ทำหอคอย
![](https://lh3.googleusercontent.com/_DPiFUrz8YE8/TbjlEf19wVI/AAAAAAAACL8/BAJdBVOqlcw/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81.jpg)
ที่มา
http://schoolweb.eduzones.com/scoutsutthi/content.php?view=20130817133500hbsZRRL
หมายเหตุ : ตัวเลข 18, 9 , 6 หรือ 3 เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้เชือกในการรับน้ำหนัก กล่าวคือ
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่มีความปลอดภัยสูงสุด ใช้ ตัวเลข 18 ในการคูณในสูตร
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่มีความปลอดภัยสูง ใช้ ตัวเลข 9 ในการคูณในสูตร
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่รับน้ำหนักเต็มที่ ใช้ ตัวเลข 6 ในการคูณในสูตร
ขนาดเส้นรอบวงของเชือกที่มีอันตราย ใช้ ตัวเลข 3 ในการคูณในสูตร
ตัวอย่างที่ 1 หากเราต้องการสร้างฐานผจญภัยให้มีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งรับน้ำหนักลูกเสือได้ 200 กิโลกรัม (0.2 ตัน) เราจะใช้เชือกที่มีขนาดเส้นรอบวงเท่าใด (ความปลอดภัยสูงสุดใช้ ตัวเลข 18 ในการคูณในสูตร)
สูตรในการคำนวณ
ความยาวของเส้นรอบวงตัวเชือก (ยกกำลังสอง) = แรงรับน.น.วัตถุ (คิดเป็นตัน) X 18
= 0.2 ตันX 9
ความยาวของเส้นรอบวงตัวเชือก (ยกกำลังสอง)= 1.8 ตัน
**เงื่อนต่างๆที่ควรเรียนรู้**
ตามหลักสูตรของการรับเครื่องหมายลูกเสือโลก เงื่อนเชือกที่ลูกเสือจำเป็นต้องเรียนรู้เพื่อใช้ในการร่วมกิจกรรมลูกเสือนั้น มีอยู่ด้วยกัน 10 เงื่อนเชือก ได้แก่
1. เงื่อนพิรอด ( Square Knot or Reef Knot )
2. เงื่อนขัดสมาธิ ( Sheet Bend Knot )
3. เงื่อนผูกกระหวัดไม้ ( Two Half Hitch Knot )
4. เงื่อนบ่วงสายธนู ( Bowline Knot )
5. เงื่อนตะกรุดเบ็ด ( Clove Hitch Knot )
6. เงื่อนประมง ( Fisherman Knot )
7. เงื่อนผูกซุง ( Timber Hitch Knot )
8. เงื่อนผูกรั้ง ( Tarbuck Knot )
9. เงื่อนปมตาไก่ ( Stevedore’s Knot )
10. เงื่อนการผูกแน่น ( Lashing Knot )
10.1 เงื่อนผูกประกบ ( Sheer Lashing Knot )
10.2 เงื่อนผูกกากบาด (Square Lashing Knot )
10.3 เงื่อนผูกทะแยง (Diagonal Lashing Knot )
1. เงื่อนพิรอด ( Square Knot or Reef Knot )
ในการต่อเชือกสองเส้นที่มีขนาดเท่ากันเข้าด้วยกัน เราใช้เงื่อนพิรอด ซึ่งเงื่อนพิรอดนี้เป็นเงื่อนที่นิยมใช้กันมากในการใช้รัดสิ่งของ ผูกชายผ้าพันแผล ผูกปลายผ้าทำสายคล้องคอ นอกจากนี้ยังใช้สำหรับผูกผ้าปูที่นอนที่นำมาต่อกัน แล้วใช้ผูกตัวผู้ป่วย เพื่อหย่อนจากที่สูงเมื่อเกิดอัคคีภัย เงื่อนพิรอดนี้นอกจากจะใช้ผูกให้แน่นหนาแล้ว ยังสามารถแก้ปมเงื่อนออกได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
เงื่อนพิรอด
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817200003.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเชือก ๒ เส้น ที่มีขนดเท่ากัน เหนียวเท่ากัน
๒. ใช้ผูกชายผ้าพันแผล ผูกชายผ้าทำสลิงคล้องคอ
๓. ใช้ผูกมัดหีบห่อ และวัตถุต่าง ๆ
๔. ผูกเชือกรองเท้า ( ปลายกระตุก ๒ ข้าง ) และผูกโบว์
๕. ใช้ผูกกากบาทญี่ปุ่น
๖. ใช้ต่อผ้าเพื่อให้ได้ความยาวตามต้องการเพื่อช่วยคนที่อยู่ที่สูงในยามฉุกเฉิน
( ต้องเป็นผ้าเหนียว ๆ )
เงื่อนขัดสมาธิ
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817200041.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเชือกที่มีขนาดต่างกัน (เส้นเล็กเป็นเส้นพันขัด) หรือต่อเชือกที่มีขนาด
เดียวกันก็ได้
๒.ใช้ต่อเชือกแข็งกับเชือกอ่อน(เส้นอ่อนเป็นเส้นพันขัด)
๓.ใช้ต่อเชือกที่ค่อนข้างแข็งเช่นเถาวัลย์
๔.ใช้ต่อด้ายต่อเส้นไหมทอผ้า
๕. ใช้ผูกเชือกกับขอหรือบ่วง (ใช้เชือกเล็กเป็นเส้นผูกขัดกับบ่วงหรือขอ) เช่น
ผูกเชือกกับธงเพื่อเชิญธงขึ้น – ลง
เงื่อนตะกรุดเบ็ด
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817200337.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกเชือกกับเสาหรือหลักเพื่อล่ามสัตว์เลี้ยงหรือเรือแพ(เพื่อป้องกันไม่ให้
ปมเชือกคลายหลุดควรเอาปลายเชือกผูกขัดสอดกับตัวเชือก ๑ รอบ )
๒. ใช้ผูกบันไดเชือก บันไดลิง ผูกกระหวัดไม้
๓. ใช้ในการผูกแน่น เช่น ผูกประกบ ผูกกากบาท
เงื่อนผูกร่น หรือ ทบเชือก
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817201009.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกร่นเชือกตรงส่วนที่ชำรุดเล็กน้อย เพื่อให้เชือกมีกำลังเท่าเดิม
๒. เป็นการทบเชือกให้เกิดกำลังลากจูง
๓. การร่นเชือกที่ยาวมากๆ ให้สั้น ตามต้องการ
เงื่อนกระหวัดไม้
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817201240.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกชั่วคราวกับห่วง หรือกับรั่ว กับกิ่งไม้
๒. แก้ง่าย แต่มีประโยชน์
๓. ผูกเชือกสำหรับโหน
เงื่อนบ่วงสายธนู
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817201421.jpg)
ปรโยชน์
๑. ทำบ่วงคล้องกับเสาหลักหรือวัตถุ เช่น ผูกเรือ แพไว้กับหลัก ทำให้เรือแพ
ขึ้น – ลงตามน้ำได้
๒. ทำบ่วงคล้องเสาหลัก เพื่อผูกล่ามสัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย เพื่อให้สัตว์เดิน
หมุนได้รอบ ๆเสาหลักเชือกจะไม่พันรัดคอสัตว์
๓. ใช้ทำบ่วงให้คนนั่ง เพื่อหย่อนคนลงสู่ที่ต่ำหรือดึงขึ้นสู่ที่สูง
๔. ใช้คล้องคันธนู เพื่อโก่งคันธนู
๕. ใช้ทำบ่วงต่อเชือกเพื่อการลากโยงของหนัก ๆ หรือทำบ่วงบาศ
๖.ใช้ผูกปลายเชือก ผูกถังตั้งถังนอน
เงื่อกผูกรั้ง
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817201918.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกสายเต็นท์ ยึดเสาธงกันล้ม ใช้รั้งต้นไม้
๒. เป็นเงื่อนเลื่อนให้ตึงหรือหย่อนตามต้องการได้
เงื่อนประมง
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817202121.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเส้นด้ายเล็ก ๆ เช่น ด้ายเบ็ด ต่อเส้นเอ็น
๒. ใช้ต่อเชือก ๒ เส้นที่มีขนาดเดียวกัน
๓. ใช้ผูกคอขวดสำหรับถือหิ้ว
๔. ต่อเชือกขนาดใหญ่ที่ลากจูง
๕. ใช้ต่อสายไฟฟ้า
๖. ใช้ผูกเรือแพกับท่าเรือหรือกับหลักหรือห่วง
๗. เป็นเงื่อนที่ผูกง่ายแก้ง่าย
เงื่อนผูกซุง
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817202243.jpg)
ประโยชน์
๑. ใช้ผูกวัตถุท่อนยาว ก้อนหิน ต้นซุง เสา เพื่อการลากโยง
๒. ใช้ผูกทแยง
๓. ใช้ผูกสัตว์ เรือแพไว้กับท่าหรือเสาหรือรั้ว ต้นไม้
๔. เป็นเชือกผูกง่ายแก้ง่าย
เงื่อนเก้าอี้
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817203220.jpg)
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817203244.jpg)
ประโยชน์
เป็นเงื่อนกู้ภัยใช้ช่วยคนที่ติดอยู่บนที่สูง ไม่สามารถลงทางบันไดได้ หรือ
ใช้ช่วยคนขึ้นจากที่ต่ำ ใช้ประโยชน์เช่นเดียวกับบ่วงสายธนู ๒ ชั้นยึดกันแน่น
โดยมีสิ่งของอยู่ตรงกลางภายในบ่วงเพื่อดึงลากสิ่งของไป ระหว่างจุด ๒ จุด
เงื่อนผูกทะแยง
![](http://www.schoolweb.in.th/uploads/20130804202906ZFVxSWG/contents/20130817203544.jpg)
วิธีผูก เอาเชือกพันรอบเสาทั้ง ๒ ต้น ตรงระหว่างมุมตรงข้ามด้วยเงื่อนผูกซุง
แล้วดึงตัวเชือกไม้เสาทั้ง ๒ ต้น ตามมุมตรงข้ามคู่แรก ( มุมทแยง )
ประมาณ ๓ รอบ ( ทุกรอบดึงให้เชือกตึง )แล้วดึงเชือกพันเปลี่ยนมุมตรงข้าม
คู่ที่ ๒ อีก ๓รอบ แล้วดึงเชือกพันหักคอไก่(พันรอบเชือกระหว่างไม้เสาทั้งสอง)
สัก ๒ – ๓ รอบ พันเสร็จเอาปลายเชือกผูกตะกรูดเบ็ดทีไม้เสาต้นใดต้นหนึ่ง
เก็บซ่อนปลายเชือกให้เรียบร้อย
ประโยชน์
๑. ใช้ในงานก่อสร้าง
๒. ให้ผูกเสาหรือไม้ค้ำยัน ป้องกันล้ม
๓. ทำตอม่อสะพาน
ผูกตอม่อสะพาน ( TRESTLE )
![](https://lh4.googleusercontent.com/_DPiFUrz8YE8/TbjlHAbTfcI/AAAAAAAACMs/dfl2zuhPpt0/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99.jpg)
อุปกรณ์ทำตอม่อสะพาน ด้วยไม้พลองหรือเสาเข็ม
๑. เสายาวพอสมควร จำนวน ๖ต้น ( ใช้พลองฝึก )
๒. เชือกมนิลาสำหรับผูก ๙เส้นขนาดโตพอสมควร (ฝึกด้วยพลองเชือกยาว
๓ เมตร)
วิธีสร้าง ฝึกด้วยไม้พลอง
๑. วางไม้พลอง ๒ อันขนานกันห่างกันประมาณ ๒ ใน ๓ ของความยาว
เป็นเสาตั้ง ( leg )
๒. เอาไม้พลองอีก ๒ อันวางทับลงบนไม้พลองคู่แรก( leg )ให้ปลายยื่น
ออกไปด้านละ ๑/๖หรือ ๑/๘
๓. เอาเชือกวัดความยาวของพลอง ทบเชือกแบ่งเป็น ๘ และ ๑๖ ส่วน เลื่อน
หัวเสาทั้ง ๒ อันเข้าหากันอีกข้างละ ๑/๑๖ เพื่อทำให้หัวเสาสอดเข้าหากัน
๔. เงื่อนที่ใช้ผูกใช้เงื่อนผูกกากบาทและผูกทแยง ( ตรงกลาง )
ประโยชน์
๑. ใช้ต่อเสาหรือไม้ให้ยาว
๒. ทำตอม่อสะพาน เสาธงลอย
๓. ทำนั่งร้าน ทำหอคอย
การเก็บเชือก
![](https://lh3.googleusercontent.com/_DPiFUrz8YE8/TbjlEf19wVI/AAAAAAAACL8/BAJdBVOqlcw/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81.jpg)
ที่มา
http://schoolweb.eduzones.com/scoutsutthi/content.php?view=20130817133500hbsZRRL